นายกโคกขี้หนอน ชี้ เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ร้องกกต.เอาผิด ชวาล พลเมืองดี สส.ชลบุรี พรรคปชช. ก้าวก่าย อปท.ว่ากันตามข้อเท็จจริงยืนยันท้องถิ่นทำงานเป็นกลาง
เมื่อวันที่ 10 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีการขุดบ่อดิน และขนส่งดินในพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลโคกขี้หนอน ต.โคกขี้หนอน อ.พานทอง จ.ชลบุรี สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าวมากมาย เกี่ยวกับรถขนดินทำให้ถนนสกปรก ฝุ่นปลิวเข้าบ้านเรือน สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่อาศัย 2 ข้างทาง ชาวบ้านจึงได้ร้องเรียนนายชวาล พลเมืองดี สส.ชลบุรี เขต 3 พรรคประชาชน

หลังจากนั้นนายชวาล ได้ทำหนังสือถึง นายสุพจน์ งามสง่า นายก อบต.โคกขี้หนอน พร้อมทั้งระบุว่าจะต้องตอบจดหมายร้องเรียนภายใน 7 วัน เมื่อนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต สว. และสมาชิกพรรคพลังประชารัฐทราบข่าว เห็นว่านายชวาล ทำผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 185 กำหนดว่า สส. หรือ สว. ต้องไม่ใช้สถานะหรือตำแหน่ง กระทำการใดๆ ที่มีลักษณะก้าวก่ายหรือแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตนเอง ของผู้อื่น หรือของพรรคการเมือง ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม และ (1) กำหนดว่าการปฏิบัติราชการหรือการดำเนินงานในหน้าที่ประจำของข้าราชการ พนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ กิจการที่รัฐถือหุ้นใหญ่ หรือราชการส่วนท้องถิ่น ถือว่าเป็นเรื่องก้าวก่ายการทำงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

หลังจากนั้นจึงได้ทำหนังสือร้องเรียนถึงประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งว่า นายชวาลได้กระทำความผิดตามกฎหมายรัฐธรรมนูญตามมาตรา 185 (1) หรือไม่ นอกจากนี้ยังได้สอบถามถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีแจ้งค่าใช้จ่ายเป็นเท็จของนายชวาลพ่วงไปด้วย เพราะคดีดังกล่าวมีความล่าช้าและไม่มีความคืบหน้า

ในวันเดียวกันนายสุพจน์ พร้อมด้วยนายสักรินทร์ นงนุช รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลโคกขี้หนอน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับบ่อดินดังกล่าวพบว่า บ่อดินไม่มีการขนย้ายดินแต่อย่างใด เนื่องจากเป็นวันหยุดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และจะเปิดทำงานอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 18 เมษายน 2568

หลังจากนั้นนายสุพจน์ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า การขุดดินและขนย้ายดินในพื้นที่ของ อบต.โคกขี้หนอนในพื้นที่หมู่ 5 และหมู่ 6 นั้นมาจากโครงการนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ชลบุรี ได้มีการทำหนังสือเกี่ยวกับการขนย้ายดินกับ 3 บริษัทรับเหมาขนดิน ยอมรับว่าได้สร้างปัญหาให้กับประชาชนที่อาศัย 2 ข้างทาง เกี่ยวกับดินมีการตกหล่นบนพื้นถนน รวมทั้งสร้างฝุ่นละอองมากมาย ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน เรื่องตนเองไม่ได้นิ่งนอนใจ จึงให้ทั้ง 3 บริษัทที่ขนดินออกมารับผิดชอบโดยจ่ายเงินชดเชย ให้กับชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน รวมเป็นเงินเดือนละ 5 หมื่นกว่าบาท

ปรากฏว่าผู้รับเหมาบางคนปฏิเสธการจ่าย และไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงเกี่ยวกับดินตกหล่นบนพื้นถนน จึงได้มีการตัดเตือน รวมทั้งมีการปิดบ่อไม่ให้มีการขนดินด้วย แต่ในข้อกฎหมายต้องยอมรับว่า หากผู้ขนดินได้มีการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ก็ต้องอนุญาตให้มีการขนดินได้ภายใน 3 วัน ไม่เช่นนั้นจะมีความผิดตามมาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ จึงต้องอนุญาตให้มีการขนดินตลอดมา คาดว่าจะใช้เวลานานประมาณ 2 ปี

กรณีที่นายชวาลได้ทำหนังสือร้องเรียนเกี่ยวกับรถบรรทุกดินสร้างความเดือดร้อนนั้น ถือว่าเป็นการทำหน้าที่ของ สส.ในการดูแลประชาชน ส่วนประเด็นที่นายเรืองไกรระบุว่า การที่นายชวาลแจ้งให้ตอบคำถามภายใน 7 วันนั้น เป็นการก้าวก่ายการทำงานของ อบต.โคกขี้หนอน และผิดรัฐธรรมนูญนั้น ในเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องของนายเรืองไกรมากกว่า ส่วนตนเองจะพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง เกี่ยวกับหนังสือร้องเรียนของนายชวาล

นายสุพจน์กล่าวอีกว่า ส่วนการทำงานของตนนั้น จะเน้นในเรื่องของความถูกต้องในการขนย้ายดิน ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน หากประชาชนได้รับความเดือดร้อน คงไม่นิ่งนอนใจ เพราะการทำงานของ อบต.โคกขี้หนอน จะเน้นประโยชน์ให้กับชาวบ้านมากที่สุด เมื่อชาวบ้านเดือดร้อนก็ต้องสั่งให้ปิดบ่อดิน แต่เมื่อผู้ประกอบการขนดินมีการแก้ไขปัญหา ก็ต้องเปิดบ่อเดินให้ดำเนินการกันต่อไป
“ขอยืนยันว่าบ่อดินนั้นถูกกฎหมาย มีหน่วยงานราชการประสานงานมา ไม่ว่าจะเป็นการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยืนยันเกี่ยวกับข้อเท็จจริงในการขุดบ่อดินประกอบการขออนุญาติขุดดิน เมื่อไม่ผิดกฎหมาย ในฐานะผู้บริหารของ อบต.โคกขี้หนอนก็จะต้องปฏิบัติตาม หากชาวบ้านเดือดร้อน ในฐานะตัวแทนประชาชนก็ต้องดำเนินการภายใต้อำนาจของท้องถิ่นเหมือนกัน” นายสุพจน์กล่าว