เกิดเหตุสลด ผู้ต้องหาเครียด ใช้เสื้อผูกคอตนเองเสียชีวิตในห้องห้องขัง สภ.บ่อวิน

หลังแม่ผู้ต้องหาทนไม่ไหว ถูกลูกไถเงินไปเสพยาทุกวันจนมีอาการหลอน คลุ้มคลั่ง ก้าวร้าว หวั่นจะทำร้ายแม่ จึงแจ้งผู้ใหญ่บ้านและตำรวจมาจับตัวไปดำเนินคดี คาดอาจเครียดที่ถูกแม่แจ้งตำรวจจับ หรือพิษยาเสพติด ญาติไม่ติดใจ
จากกรณีเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2568 เวลาประมาณ 16.30 น. นางสนอง แก้วกา อายุ 61 ปี ได้เข้าร้องเรียนต่อ นายอภิชาติ นุ่นช่วย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ตำบลบ่อวิน อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ่อวิน ให้ช่วยมาควบคุมตัว นายธรณ์เทพ แก้วสี อายุ 26 ปี ลูกชาย ที่มีอาการคลุ้มคลั่ง เอะอะ โวยวาย เนื่องมาจากการเสพยาเสพติด ที่บ้านเลขที่ 271 / 642 หมู่ที่ 3 ตำบลบ่อวิน อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี จึงเข้าไปตรวจสอบ


โดยนางสนอง (แม่) ได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ใหญ่บ้านเข้าไปตรวจสอบในห้องนอนของนายธรณ์เทพ (ลูกชาย) พบว่ากำลังเสพยาอยู่ในห้องนอน เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวพร้อมยาบ้า จำนวน 7 เม็ด ที่ยังคงเหลือค้างไว้ รวมทั้งอุปกรณ์การเสพยา นำตัวไปสอบสวนดำเนินคดีต่อที่ สภ.บ่อวิน โดยนายธรณ์เทพเมื่อถูกควบคุมตัวมีอาการนิ่งเงียบไม่ยอมพูดจาใดใดกับใคร
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ่อวิน ได้ทำการสอบสวนนายธรณ์เทพ แต่นายธรณ์เทพไม่ยอมพูดใดใด แต่ยอมรับว่าเสพยาจริง และพยักหน้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะควบคุมตัวเข้าห้องควบคุมตัวผู้ต้องหา โดยจับแยกขังเดี่ยว เนื่องจากเกรงว่าจะมีอาการคลุ้มคลั่ง ทำร้ายผู้ต้องหารายอื่นที่ถูกจับกุมมาอีกห้องซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าวจำนวนหลายคน ซึ่งนายธรณ์เทพยังมีอาการนิ่งเงียบ ไม่พูดจากับใคร เช่นเดิม


ต่อมาเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำเพิ่มเติม แล้วทำสำนวนคดีเพื่อเตรียมส่งศาลในวันที่ 25 กันยายน 2568 แต่ช่วงเวลาประมาณ 16.20 น. ของวันที่ 24 กันยายน เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลผู้ต้องหาก็เข้าไปตรวจสอบในห้องขังพบว่า นายธรณ์เทพ ได้ใช้เสื้อที่สวมใส่อยู่ผูกคอตนเองกับลูกกรงเหล็กเสียชีวิตไปแล้ว จึงประสาน พ.ต.อ.กฤศ ธิติทัศนะ ผกก.สภ.บ่อวิน ให้ทราบเหตุ จึงประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 2 อัยการ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอศรีราชา แพทย์ เจ้าหน้าที่กู้ภัย และญาติผู้เสียชีวิต เข้าร่วมตรวจสอบ ผลปรากฏว่าตามร่างกายไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย จึงเปิดกล้องวงจรปิดให้ญาติดูพบว่า นายธรณ์เทพ ตัดสินใจก่อเหตุผู้คอตนเองเสียชีวิตเอง ญาติจึงไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตในครั้งนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงส่งร่างนายธรณ์เทพส่งชันสูตรยืนยันสาเหตุการเสียชีวิตที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ด้วย ส่วนสาเหตุเบื้องต้นน่าจะเกิดจาก นายธรณ์เทพมีอาการเครียดหลังจากถูกแม่แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้จับกุมตัว รวมทั้งมีอาการติดยาบ้าอย่างหนัก จนมีอาการหลอน มีอาการทางประสาท จนทำให้ขาดความยับยั้งชั่งใจ ก่อเหตุดังกล่าวขึ้น


ซึ่ง นางสนอง แก้วกา เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา นายธรณ์เทพ ลูกชายได้ไปหาตนเองเพื่อขอเงิน 5,000 บาท โดยอ้างว่าจะเอาโทรศัพท์มือถือไปซ่อม ตนเองขายลอตเตอรี่อยู่ไม่มีเงินขนาดนั้น จึงบอกว่ามีแค่สองพันบาท แต่ลูกชายไม่ยอม จะเอาเงินให้ได้ เอะอะโวยวายเสียงดัง ตนเองจึงให้เงินไป 3,000 บาท แล้วลูกชายก็ออกไป โดยทราบว่าเอาเงินดังกล่าวไปซ่อมโทรศัพท์มือถือจริง เติมน้ำมัน 500 บาท และอีกส่วนหนึ่งนำเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพที่บ้าน ตนเองจึงปรึกษาเพื่อน ๆ ว่าจะทำอย่างไรดี เนื่องจากกลัวลูกจะคลุ้มคลั่ง ทำร้ายร่างกายตนเอง จึงแจ้งผู้ใหญ่บ้านและตำรวจให้ช่วย หลังจากนั้นคนเองกลับมารอผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่หน้าบ้าน แล้วพากันเข้าไปในบ้าน พบว่าลูกชายอยู่ในห้องพัก จึงหลอกว่าวางบุหรี่อยู่หน้าห้อง เพื่อให้ลูกชายเปิดประตูออกมา แต่ลูกชายไม่ยอมออก จึงอนุญาตให้พังประตูห้องได้เลย พอเข้าไปได้ก็พบว่าลูกชายกำลังเสพยาบ้าอยู่ และตรวจพบยาบ้าอีก 7 เม็ด อยู่ในห้อง นำตัวไปดำเนินคดี


ซึ่งที่ตนเองต้องทำแบบนี้เนื่องจากกลัวลูกชายที่มีอารมณ์รุนแรง เอะอะโวยวาย พูดเพ้อเจ้อ เหมือนหลอนยา แต่ยังไม่ถึงกับทำร้ายร่างกายตนเอง แต่เราก็กลัว จึงต้องทำแบบนี้ ซึ่งลูกชายติดยามานานแล้ว กินเสพมาโดยตลอด มาหนักที่สุดก็ 3 เดือนที่ผ่านมา แรก ๆ มาขอเงิน 300 ต่อมาก็หนักขึ้นเรื่อย ๆ เป็น 500-800-1,500 บาททุกวันเรื่อยมา จนล่าสุดมาของเงิน 5,000 บาทนั่นแหละ แล้วแบบนี้ตนเองจะหาเงินไหวหรือไม่ งานการก็ไม่ทำ เสพยาอยู่ในห้องอย่างเดียว ตอนอยู่ สภ.บ่อวิน แม่ไปเยี่ยมก็นั่งเงียบ ซึม ไม่พูดอะไร ญาติเข้าไปสอบถามก็บอกว่าอยากเสพยา อยากสูบบุหรี่เพียงเท่านั้น สารวัตรเรียกออกมาคุยก็เงียบ ไม่พูดจา จนเวลาประมาณกว่า 4 โมงเย็น เจ้าหน้าที่ตำรวจก็โทรมาบอกว่านายธรณ์เทพผูกคอเสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งตนเองไม่ติดใจเนื่องจากทราบว่าลูกชายมีอาการแบบนี้เนื่องจากเสพยาดังกล่าวซึ่งหลังจากนี้ ทางญาติ ๆ ได้นำร่างมาบำเพ็ญกุศลที่วัดบึงราชาวาส เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

              

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *