“นายกไร่อ้อยชลบุรี”มอบที่ทำการสมาคมชาวไร่ มูลค่ากว่า 300 ล้านให้เป็นโรงพยาบาลสนาม รักษาผู้ป่วยโควิด ย้ำ“ชีวิตมนุษย์สำคัญกว่าสิ่งใด”

“นายกไร่อ้อยชลบุรี”มอบที่ทำการสมาคมชาวไร่ มูลค่ากว่า 300 ล้านให้เป็นโรงพยาบาลสนาม รักษาผู้ป่วยโควิด ย้ำ“ชีวิตมนุษย์สำคัญกว่าสิ่งใด”

           เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 28 กรกฎาคม 2564 ที่สมาคมกลุ่มอาชีพการเกษตรชลบุรี ม.1 ต.หนองชาก อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี “นายกเป้า”นายจิรวุฒิ สิงห์โตทอง นายกสมาคมกลุ่มอาชีพการเกษตรชลบุรี อดีตส.ส.ชลบุรี  เปิดเผยว่า ในวันนี้ 28 กรกฎาคม เป็นวันมงคลของพี่น้องคนไทยทั่วประเทศ ในฐานะตัวผมดำรงตำแหน่ง นายกสมาคมกลุ่มอาชีพการเกษตรชลบุรี ขอประกาศให้พี่น้องคนชลบุรี ได้ทราบว่า

สมาคมกลุ่มอาชีพการเกษตรชลบุรี ได้มีมติที่จะยกสำนักงานที่ทำการสมาคมฯ  ประกอบด้วยห้องประชุมใหญ่รองรับคนได้กว่า 1 พันคน  ห้องประชุมย่อย อาคารสำนักงานภายในสมาคมจำนวนกว่า 10 อาคาร มีห้องน้ำ ห้องสุขา รวมกว่า 20 ห้อง  และยังมีอาคารเรียนวิทยาลัยเกษตรชลบุรี (เกษตรซุ้ย)  ซึ่งเป็นอาคาร 3 ชั้นจำนวน 2 อาคาร แต่ละอาคารมีห้องรวมกว่า 30 ห้อง โรงยิมจำนวน 1 อาคาร และยังมีอาคารอเนกประสงค์ภายในพื้นที่สมาคมอีก 1 อาคาร  สนามหญ้า รวมอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 60 ไร่  มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท  มอบให้กับอำเภอบ้านบึง และจังหวัดชลบุรี

เพื่อใช้พื้นที่จัดทำเป็นโรงพยาบาลสนาม รักษาชีวิตผู้ป่วยโควิด 19 ที่มีการแพร่ระบาดในจังหวัดชลบุรีเป็นอย่างมาก ผมได้แจ้งกับพี่น้องเกษตรกรชาวไร่ชลบุรีว่า ชีวิตคนสำคัญกว่าสิ่งใด เราจำเป็นต้องช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ที่กำลังลำบาก เพราะขาดสถานที่ในการรักษา   ผมมอบหมาย นายคมกริช สิงห์โตทอง รองนายกเทศมนตรีเทศบาลต.หนองชาก  แจ้งความประสงค์ไปยังนายพิสิษฐ สิริสวัสดินุกูล นายอำเภอบ้านบึง แล้วว่าเราจะมอบอาคารสถานที่ให้ ซึ่งนายอำเภอบ้านบึง ก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอบ้านบึง มาตรวจดูพื้นที่และตัวอาคารแล้วก็มีความพอใจในพื้นที่ เพราะมีความเหมาะสมกว้างขวาง เป็นสัดส่วนและอากาศถ่ายเทดีเหมาะแก่การรักษาผู้ป่วย

  อาคารก็สามารถปรับปรุงทำเป็นที่รองรับการรักษาตัวของผู้ป่วยโควิดได้มากกว่า 300 เตียง ยังไม่รวมพื้นที่อาคารที่ 2 ก็สามารถรองรับผู้ป่วยได้จำนวนกว่า 200 ราย ภายในมีห้องน้ำ ห้องสุขา อยู่ทุกชั้นของอาคาร  ในส่วนอาคารสำนักงานด้านหน้านั้น ก็สามารถจัดให้เป็นที่พัก ห้องพักของพยาบาล จิตอาสา รวมไปถึงคณะแพทย์ที่มารักษาตัวผู้ป่วย  การเดินทางไป-มาก็สะดวกเพราะสถานที่อยู่ติดกับถนนสายหลักหนองชาก-เนินโมก  พื้นที่สนามด้านหน้าและบริเวณรอบอาคาร สามารถจอดรถยนต์ได้กว่า 500 คัน

         “นายกเป้า”กล่าวอีกว่า การปรับปรุงตัวอาคารนั้นจากการตรวจสอบก็ไม่ต้องทำอะไรมากเพียงแต่เข้าไปทำความสะอาด ติดตั้งระบบไฟฟ้า-ประปา ปรับปรุงห้องสุขา ก็สามารถใช้อาคารได้ทันที ทางเทศบาลต.หนองชาก-อบต.หนองอิรุณ ก็จะเอารถน้ำมาฉีดทำความสะอาด ส่วนอาจารย์วิทยาลัยเทคนิคชลบุรี ก็จะส่งนักเรียนช่างไฟฟ้ามาตรวจดูเรื่องระบบไฟฟ้า น้ำประปา  น่าจะใช้เวลาไม่เกิน 15 วันก็เสร็จเรียบร้อย  สมาคมกลุ่มอาชีพการเกษตรชลบุรี ขอมอบอาคาร-พื้นที่ให้ชาวชลบุรี ได้ใช้เป็นสาธารณะประโยชน์แบบฟรี ๆ ไม่คิดมูลค่าแต่อย่างใด   อย่างน้อยเกษตรกรชาวไร่อ้อย ก็จะได้มีส่วนร่วมในการ รักษาชีวิตของพี่น้องชาวชลบุรีให้รอดปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของโรคติดต่อร้ายแรงโควิด 19 ที่ต้องบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก

         ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับสมาคมกลุ่มอาชีพการเกษตรชลบุรี มี “เฮียซุ้ย”นายดรงค์ สิงห์โตทอง อดีตส.ส.ชลบุรี พ่อของ “นายกเป้า” เป็นผู้ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2512 วัตถุประสงค์เพื่อยกระดับให้เกษตรกรชาวไร่อ้อย จ.ชลบุรี ได้มีปากเสียงในการกำหนดราคาขายอ้อยให้กับโรงหีบ ในปี 2515 สมาคมกลุ่มอาชีพการเกษตรชลบุรี ได้สมทบทุนซื้อเครื่องบินถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวร.9 เพื่อใช้ในการทำฝนเทียม และ ผลักดันพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาล เป็นผลสำเร็จ ในปี 2527 โดยปัจจุปันอาคารและสถานที่ภายในสมาคมกลุ่มอาชีพการเกษตรชลบุรี มีมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท

ธนา ธรรมวาจา / เจียรพรรณ สุรนันท์ รายงาน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *